นายอาศิส อัญญะโพธิ์ ผู้จัดการส่วนวิจัยและพัฒนาการแลกเปลี่ยนข้อมูลและบริการภาครัฐ สำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐหรือสบทร. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้บริการเครือข่าย สารสนเทศภาครัฐและ สนับสนุนการทำงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของหน่วยงานภาครัฐ กล่าวระหว่างการสัมมนา “e-Government Revolution: สู่ยุคการปฏิวัติรัฐบาล อิเล็กทรอนิกส์” เมื่อเร็วๆนี้ ว่า หน่วยงานภาครัฐควรนำเทคโนโลยีเว็บเซอร์วิส มาใช้ในการทำงาน เพราะจะช่วยลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงระบบงานเก่า ปัญหาการทำงานซ้ำซ้อนและขั้นตอนในการทำงาน พร้อมทั้งควรนำระบบแลกเปลี่ยนข้อมูล ผ่านเว็บเซอร์วิส มาให้บริการเพื่อช่วยให้ผู้ที่มาติดต่อ ที่ต้องใช่ข้อมูลเหมือนๆ กัน แต่อยู่คนละหน่วยงานมีความสะดวกและใช้เวลาน้อยลงด้วย
“ตัวอย่าง เช่น ถ้าต้องการขอเป็นผู้นำเข้า-ส่งออกสินค้าควบคุมและวัตถุอันตรายจำพวก สารคาเฟอีน การดำเนินการแต่ละครั้งต้องติดต่อทั้งกรมการค้าต่างประเทศ กรมศุลกากร กรมการค้าภายใน สำนักงานอาหารและยาและกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น ดังนั้น หากนำเทคโนโลยีเว็บเซอร์วิสมาให้บริการ ผู้ประกอบการก็จะสามารถทำทุกอย่าง เพียงครั้งเดียวและ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกเชื่อมต่อไปยังทุกหน่วยงาน ช่วยลดขั้นตอนและความซ้ำซ้อนในการดำเนินการ นอกจากนั้นยังเกิดความสะดวก ทั้งหน่วยงานภาครัฐเองและประชาชนผู้มาใช้บริการด้วย” นายอาศิส กล่าว
นายอาศิส กล่าวต่อว่า สำหรับเทคโนโลยีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ต้องประกอบด้วย การเชื่อมโยงเว็บเซอร์วิสของแต่ละหน่วยงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การใช้มาตรฐานกลาง(XML) ในการกำหนดรูปแบบของข้อมูล การใช้ HTTPS ในการเข้ารหัสข้อมูลและการใช้ PKI ในการยืนยันตัวบุคคลผู้ใช้ข้อมูล ดังนั้นคาดว่ากว่าหน่วยงานภาครัฐของไทยทุกหน่วยงาน จะดำเนินการเพื่อให้เว็บเซอร์วิสเป็น ไปตามมาตรฐานเดียวกันตามที่กล่าวคงต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปี
ที่มา: Thairath