ถ้าคุณสามารถได้กลิ่นไอของความรัก และคุณเดินเข้ามาให้มหาวิทยาลัย หรือที่ไหนๆ ที่มีหนุ่มสาวรวมกลุ่มกันอยู่ คุณจะพบว่ามีกลิ่นของความรักตลบอบอวลไปทั่ว เนื่องด้วยระยะห่างที่เกิดขึ้นในช่วงปิดเทอมสำหรับบางคู่ หรืออีกนัยหนึ่งคือเมื่อกลับมาอยู่ที่หอพักแล้ว ห่างไกลจากสายตาของพ่อแม่ผู้ปกครอง ก็เลยสามารถทำอะไรได้ตามที่ต้องการ ภาพของการเคล้าคลอเคลีย โอบกอด จูงไม้จูงมือ ก็มีให้เห็นไปทั่วจนชินตาสำหรับผม
แต่ในบางครั้งความรักไม่ได้ทำให้ตาบอดเพียงอย่างเดียว ยังทำให้โสตประสาทอื่นๆ ของร่างกายทำงานผิดพลาดไปด้วย การรับรู้ในเรื่องของสิ่งแวดล้อมถูกตัดขาดลง โลกทั้งใบดูเหมือนจะเหลือแต่เราสองคน
ที่เขียนมาข้างต้น ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะว่าในช่วงเวลานี้ผมจะต้องระมัดระวังในการขับรถในมหาวิทยาลัย อย่างเช่นเมื่อวานนี้เกือบชนลูกสาวและลูกชายของใครก็ไม่ทราบ เขาทั้งสองนั่งรถป๊อบคันเล็กๆ ผู้ชายเป็นคนขับโดยโอบกอดผู้หญิงที่นั่งตรงกลาง ขณะนั้นผมขับรถกำลังจะเร่งแซงเขาทั้งสองไป แต่แล้วผมก็ต้องเบรคอย่างแรงจนกล่องข้าวที่ซื้อมากระเด็นตกลงไปกลิ้งอยู่ที่พื้น ดีที่กล่องไม่เปิดออก ไม่อย่างนั้นผมคงต้องนั่งกินข้าวจากถุงพลาสติกเป็นแน่
สาเหตุที่ผมต้องเบรคหัวทิ่ม เพราะเขาต้องการจะกลับรถและเขาก็ทำมันทันที ผมหยุดและเขาก็หยุด ผมมองไปด้วยความเซ็ง พูดอะไรไม่ออก นึกอยากจะด่าออกไป แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร ผมนั่งนิ่งและรอจนกระทั่งเขากลับรถผ่านผมไป แล้วผมจึงเคลื่อนรถต่อ
บอกแล้วไงครับว่า ความรักไม่ได้ทำให้คนตาบอดเพียงอย่างเดียว ยังทำให้โสตประสาทส่วนอื่นๆ ทำงานผิดพลาด จนทำให้บางครั้งเกือบตายด้วย
ความรักไม่ได้ทำให้คน2คนตาบอดเพียงอย่างเดียว
แต่ยังทำให้โสตประสาทของคนที่แอบมองส่วนอื่นๆ ทำงานผิดพลาดไปด้วย 😛