Flickr


ภาพอ่าวไร่เลย์

Originally uploaded by gTar.

รูปและข้อความนี้โพสจาก Flickr นึกไม่ถึงเลยว่าจะทำได้ถึงขนาดนี้ อืมม…

ในที่สุดผมก็ตัดสินใจใช้บริการของ Flickr แทน Webshots ด้วยเหตุผลด้วยคุณสมบัติที่อำนวยสะดวกสบายมากกว่า เช่น การสร้างและจัดการอัลบั้มใช้วิธีการ drag & drop ซึ่งสะดวกมาก ที่สำคัญคือสามารถเพิ่มข้อความหมายเหตุ (note) ลงไปในรูปภาพได้เลย อีกอย่างที่สำคัญก็คือเรื่องของการจัดหมวดหมู่ หรือ cluster ของรูปภาพ ซึ่งผู้ใช้สามารถสร้างกลุ่มของรูปภาพขึ้นมาได้ และส่งรูปภาพของตัวเองเข้ากลุ่มต่างๆ ทำให้เกิด community ของรูปภาพขึ้นมา

สังเกตไหมว่า…

เพื่อนต่างชาติคนนึง สังเกตว่า

  • ภาพโปเตอร์โฆษณาต่างๆ มักจะเป็นรูปอาคาร รูปตึก สิ่งก่อสร้าง … ทำไมต้องเป็นรูปตึก เป็นรูปอย่างอื่นไม่ได้หรือ? แปลว่าจะทำอะไรก็ต้องมีตึกเสียก่อน?
  • เวลาจะขอความช่วยเหลือจากรปภ. ถ้าพูดด้วยดีๆ จะไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ดี ต้องวางก้าม แสดงอำนาจ ถ้าแสดงท่าทีอ่อนกว่า มักจะไม่ได้รับความช่วยเหลือที่ดี…
  • คนไทยมักคำนึงถึงเรื่องอาหารการกิน … กินข้าวหรือยัง หิวไหม ทานอะไรหรือยัง … เพื่อนฝรั่งบอกนึกในใจ “ไม่เป็นไร ไอหากินเองได้”

พูดถึงรปภ. ก็มีเรื่องเล่า เมื่อวันก่อนนั่งทานข้าวในโรงอาหารในห้องทานข้าวของอาจารย์และเจ้าหน้าที่ประมาณบ่ายกว่าๆ เหลือกันอยู่แค่โต๊ะเดียว และกำลังคุยกับเพื่อนที่ทำงานอย่างเมามัน รปภ.ผู้หญิงคนนึงถือจานข้าวเดินเข้ามานั่งทานในห้อง แต่ไม่เป็นไร เพราะไม่มีใครแล้ว

สักพักเธอเดินไปเปิดทีวี นั่งกินข้าวไปดูทีวีไป … ผมนึกในใจ โอ้… พวกเราก็นั่งกันอยู่ใกล้ๆ เธอก็ไม่สนใจ แต่เธอสามารถทำอย่างนี้ได้ในเวลางานเหรอ? ดูทีวีไป ทานข้าวไป เหมือนอยู่บ้าน

หลังจากนั้นอีกไม่นาน เนื่องจากพวกเราคุยเสียงดัง ทำให้เธอไม่ได้ยิน เธอก็เลยไปปรับเสียงทีวีให้ดังขึ้น แข่งกับพวกเราที่คุยกันอยู่ … ผมสุดจะทน คนอื่นก็เหมือนกัน พี่คนนึงลุกขึ้นไปบอก พูดด้วยดีๆ ว่า ไม่ควรทำอย่างนี้นะ นี่ไม่สมควร และเธอเป็นรปภ. หน้าที่คือการดูแลความสงบเรียบร้อย ไม่ใช่มาสร้างปัญหาเสียเอง หากหัวหน้าเธอมาเห็นเข้าเธอจะเดือดร้อนนะ

ไม่รู้ว่าเธอเข้าใจหรือเปล่า แต่ก็มีอาการตอบโต้ ฟึดฟัดปิดทีวี เดินออกไปเลย … อาการแบบนี้ ไม่น่าจะเข้าใจ 🙁

Sender Policy Framework (SPF)

ผมหยิบ eweekthailand ขึ้นมาอ่าน มีบทความตอนหนึ่งชื่อ”ระบบตรวจสอบผู้ส่งอีเมลยังไม่สดใส” ในบทความบอกว่ามีงานประชุม Email Authentication Implementation Summit 2005 ซึ่งถูกจัดขึ้นเพราะธรุกิจต่างๆ กำลังได้รับผลกระทบจากพวกสแปม ฟิชชิ่ง และไวรัส

เขาบอกว่าในงานมีการพูดถึง Sender Policy Framework (SPF), Sender ID Framework (SIDF) จากไมโครซอฟท์ และ DomainKeys Identification Mail (DKIM) จากความร่วมมือระหว่าง Cisco และ Yahoo!

หลักการของทั้ง 3 อย่างนั้นไม่แตกต่างกัน ก็คือใช้วิธีการที่จะตรวจสอบว่าอีเมลที่รับเข้ามาจากนั้น เป็นอีเมลที่มาจากต้นตอจริงๆ ไม่ใช่ถูกปลอมมาจากพีซีของพวกสแปมเมอร์ ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าของโดเมนก็ต้องทำการเพิ่มข้อมูลหรือแก้ไขให้ผู้รับสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้

DKIM ถูก submit กับ Internet Engineering Task Force (IETF) และถูกพิจาณาในช่วง 31 ก.ค. – 5 ส.ค. 48 ที่ผ่านมา ผลเป็นไงยังไม่ทราบ แต่ตอนนี้ Yahoo! ใช้ DKIM ไปแล้ว ส่วน Hotmail ก็ใช้ SIDF ไปแล้วเหมือนกัน

บังเอิญมากเลยที่ search ไปเจอ blog ของผู้เข้าร่วมประชุม IETF ครั้งนี้ ลองเข้าไปอ่านดูก็แล้วกันครับ

เรื่องเกี่ยวกับบล็อก (blog)

ผมเขียนบทความลงนิตยสาร Hi-Class ฉบับ 242 วางแผงในเดือนตุลาคมนี้ ในเรื่องที่เกี่ยวกับบล็อก ตอนเขียนก็ search หาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งก็ได้ข้อมูลมาพอสมควร ข้อมูลที่หาเจอมาบางอย่างน่าจะมีประโยชน์ที่จะใช้ต่อในภายหลัง ก็เลยขอสรุปรวมสั้นๆ ไว้ตรงนี้

  • Corporate Blogs list
    เป็นเว็บที่รวบรวมรายชื่อของบริษัทต่างๆ ที่มี corporate blog
  • Corporate Blogging and the CIO
    เป็นบทความที่กล่าวถึงการนำ blog ไปใช้กับองค์กรเป็น coporate blog โดยมีบทสัมภาษณ์ CIO ของบริษัท Sun Microsystems ที่ถือว่าเป็นบริษัทแรกๆ ที่เป็นผู้บุกเบิกนำ blog ไปใช้ โดยเชื่อว่า blog ทำให้ผู้บริหารของบริษัทสามารถที่จะสื่อสารกันได้โดยอิสระ
  • Corporate Blogging Policy
    เป็นการยกตัวอย่าง policy ในการเขียนบล็อกของบริษัทต่างๆ รวมทั้งมี link ไปยัง policy ของบริษัทต่างๆ เช่น Yahoo ด้วย
  • Corporate blog policy compared
    เป็นการนำ policy ของบริษัทต่างๆ ได้แก่ IBM, Yahoo, Hill & Knowlton, Plaxo, Thomas Nelson, Feedster, Groove และ Sun มาเปรียบเทียบกัน ว่า policy ใดที่เหมือนกัน และบริษัทต่างๆ ให้ความสำคัญกับ policy ใดบ้าง
  • Gotoknow.org
    เว็บนี้พลาดไม่ได้ เพราะไม่ควรพลาด เนื่องจากน่าจะเป็นเว็บแรกในไทยที่มีการประยุกต์ใช้บล็อกในการจัดการความรู้ ได้รับการสนับสนุนโดย สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม (สคส.) เข้าไปอ่านแล้วจะได้ความรู้เกี่ยวกับ knowledge management ครับ

หออัครศิลปิน

เมื่อวานได้มีโอกาสแวะไปที่หออัครศิลปินมา หลังจากที่ขับรถผ่านป้ายบอกทางไปหอฯ ตั้งหลายรอบจนได้มีโอกาสเหมาะๆ นี่แหละครับ

หออัครศิลปิน “สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นเลิศในศิลปทั้งมวล เป็นที่ประจักษ์ชัดแก่พสกนิกรและศิลปินทั่วโลก เป็นสถานที่จัดแสดงผลงานด้านศิลปและวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของพระองค์ 9 ด้าน คือ ด้านหัตถกรรม ด้านกีฬา ด้านวรรณศิลป์ ด้านจิตรกรรม ด้านถ่ายภาพ ด้านภูมิสถาปัตยกรรม ด้านประติมากรรม ด้านดนตรี และด้านการพระราชนิพนธ์เพลง นอกจากนี้ ยังเป็นที่จัดแสดงประวัติและผลงานอันล้ำค่าของศิลปินแห่งชาติทุกท่านในรูปแบบนิทรรศการภาพและเทคโนโลยีที่ทันสมัยและถ่ายทอดผลงานและภูมิปัญญาของศิลปินแห่งชาติทั้ง 4 สาขา คือ สาขาวรรณศิลป์ ศิลปการแสดง ทัศนศิลป์ และสถาปัตยกรรม”

“หออัครศิลปิน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2539 ในโครงการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกาญจนาพิเษก ณ บริเวณ ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี”

เว็บไซต์ของหออัครศิลปิน

วันที่ผมไปค่อนข้างเงียบเหงามาก อาจเป็นเพราะว่าเป็นวันหยุดยาวหลายวัน เสียดายที่ทางหอฯ ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป รปภ.ที่ดูแลอธิบายว่าเมื่อก่อนอนุญาตให้ถ่าย แต่ว่าเนื่องจากมีคนถ่ายแล้วเอารูปไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นใครจะถ่ายรูปต้องทำเรื่องมาขออนุญาตเป็นรายๆ ไป

ผมเข้าไปดูข้างในแล้วก็พบผลงานที่แสดงถึงพระอัจฉริยภาพทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีทั้งภาพวาดจาฝีพระหัตซึ่งทางหอฯ ได้จัดแสดงรูปไว้โดยมีการควบคุมอุณหภูมิของรูปภาพไว้ด้วย หอฯ ได้ใช้เซ็นเซอร์เข้ามาช่วยในการแสดง โดยเวลาผมเดินไปใกล้ตัวเซ็นเซอร์จะสั่งให้เปิดไฟและมีคำอธิบายถึงผลงานแต่ละชิ้นของพระองค์ นอกจากนี้ก็ยังมีทีวีและจอระบบสัมผัสอยู่เป็นระยะๆ ด้วย

นอกจากนี้ก็ยังมีห้องแสดงผลงานของศิลปินแห่งชาติในสาขาต่างๆ ได้แก่ สาขาทัศรศิลป์ สาขาศิลปะการแสดง สาขาวรรณศิลป์ ทางหอฯ ได้มีการจัดแสดงผลงานต่างๆ เป็นอย่างดี บรรยากาศก็เหมือนกับการแสดงนิทรรศการศิลปดีๆ นี่เองครับ (แต่เนื่องจากไม่มีใครอยู่ในห้องเลย ผมเดินชมอยู่คนเดียว ก็เสียวๆ เหมือนกัน) ผมเข้าใจว่าหอฯ ได้มีการจัดประชุมสัมนาและกิจกรรมต่างๆ อยู่เป็นระยะๆ ใครว่างๆ ผ่านมาแถวนี้ก็ลองแวะเข้าไปดูหน่อยก็แล้วกันครับ (แผนที่)

เพิ่มเติมอีกนิดว่าที่บริเวณเดียวกันนั้นมี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกาญจนาภิเษก อยู่ด้วยครับ แต่ว่ายังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ ถ้าขับรถเข้าไปใกล้ๆ จะเห็นตึกของพิพิธภัณฯ สูงเด่นขึ้นมาเลย แต่ที่น่าเสียดายก็คือ ตัวอาคารดูชำรุดทรุดโทรม เวลาเปิดใช้งานจริงๆ ก็คงต้องมีการซ่อมใหญ่เหมือนกันครับ

Thailand Digital Inspiration

ตอนที่บิล เกตส์แวะมาประเทศไทย ผมไม่ได้สนใจอะไรนัก เพราะว่ามีงานประจำที่ต้องทำเร่งด่วน คิดว่าเอาไว้ว่างๆ จะค่อยหารายละเอียดอ่านตามหลัง หรือไม่ก็หา video clip ที่อาจจะมีคนทำไว้ ซึ่งจริงๆ ก็ยังไม่มีเวลา search หรอก แต่บังเอิญไปเจอใน blog ของใครสักคน ว่าสามารถไปดูได้ที่นี่ http://billgates.msnth.com/ เลยขอเอามาแปะไว้ก่อน ว่างจริงๆ ก็จะดูอีกที

เปลี่ยนหน้าตาใหม่กับลองแก้ชื่อเดือน วัน ปี

วันนี้ลองเปลี่ยนหน้าตาของ blog ใหม่ แล้วก็ลองแก้พวกชื่อเดือน วัน ให้เป็นภาษาไทย พร้อมกับปรับแก้ให้เป็นปี พ.ศ. (แก้แค่บางส่วน)

ไฟล์ที่แก้ก็มี
locale.php เพื่อแก้ชื่อเดือนและวัน ไฟล์อยู่ที่ wp-includes
template-functions-general.phps เพื่อแก้ปีพ.ศ. ไฟล์อยู่ที่ wp-includes

ผมแก้ปี ค.ศ. ให้เป็น พ.ศ. ที่แสดงในแต่ละวันได้โดยอาศัยฟังก์ชัน get_the_time() ที่ WordPress มีมาให้

< ?php the_time('j F '); $year = get_the_time('Y'); echo $year+543; the_time(' H:i');?>

รายละเอียดของ Template tags ดูได้จากที่นี่ครับ http://codex.wordpress.org/Template_Tags

Spammer โดนพิพากษาจำคุก 9 ปี

เมื่อวันศุกร์ที่ 8 เมษายน 2548 ที่ผ่านมา นาย Jeremy Jaynes อายุ 30 ปี(ซ้ายมือในรูป) เป็นคนแรกที่ถูกศาลของรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 9 ปี ภายใต้กฎหมายการต่อต้านสแปมเมล์ซึ่งประกาศใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 สิ่งที่นาย Jeremy ทำก็คือ เขาได้ทำการส่งอีเมล์ล์ขยะ เป็นจำนวนมากถึงวันละ 10 ล้านฉบับ โดยใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจำนวน 16 เส้น ด้วยปริมาณการส่งอีเมล์ขยะจำนวนมหาศาลนี้ ส่งผลให้เขาติดอันดับที่ 8 ใน 10 อันดับของผู้ที่ส่งอีเมล์ขยะมากที่สุดของโลก ซึ่งสร้างรายได้ให้เขามากถึง 750,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือน หลังจากได้รับฟังคำพิพากษา นาย Jeremy ได้ยื่นอุทรณ์ และเนื่องจากเป็นกฎหมายใหม่ที่เพิ่งจะถูกบังคับใช้ ศาลจึงได้เลื่อนการจำคุกเขาออกไปก่อน โดยได้กำหนดวงเงินประกันไว้สูงถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐ

(AP Photo/Abigail Pheiffer)